วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ธรรมชาติของดิน



ความหมายของดิน
          ดินในทางด้านการเกษตรหมายถึงวัตถุที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากแร่ธาตุต่าง ๆ และอินทรียวัตถุ ที่สลายตัวหรือเน่าเปื่อยผุพังเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยผสมกันและรวมตัวกันเป็นชั้น ๆ ห่อหุ้มผิวโลก เมื่อมีน้ำและ อากาศผสมอยู่ในอัตราส่วนที่เหมาะสมแล้ววัตถุที่เกิดขึ้นเหล่านี้จะช่วยทำให้พืชเจริญเติบโตและยังชีพได้



ส่วนประกอบของดิน
ดินที่ดีสำหรับการปลูกพืชควรประกอบไปด้วยส่วนประกอบ 4 ส่วน คือ
          1. อินทรียวัตถุคือ ส่วนประกอบของแร่ธาตุต่าง ๆ 45%
          2. อินทรียวัตถุคือ ส่วนประกอบจากการเน่าเปื่อยของซากพืชและสัตว์ประกอบอยู่ในดิน 5%
          3. น้ำ คือ ส่วนประกอบที่อยู่ช่องว่างในดิน 25%
          4. อากาศ คือ ส่วนประกอบที่อยู่ช่องว่างในดินก๊าซต่าง ๆ 25%
ประเภทของดิน
การจำแนกประเภทของดินพิจารณาจากสัดส่วนของเม็ดดินที่ละเอียดหรือหยาบสามารถแบ่งออกได้ ดังนี้
          1. ดินเหนียวเป็นดินที่ประกอบด้วยเม็ดดินละเอียดจำนวนมาก มีช่องว่างในดินน้อยน้ำ และอากาศซึม ผ่านได้ยาก เมื่อได้รับความชื้นจะจับกันเหนียวมากเหมาะสำหรับพืชที่ชอบน้ำขัง เช่น ข้าว
          2. ดินร่วนประกอบด้วยเม็ดดินขนาดเล็กและขนาดใหญ่พอ ๆ กัน จึงทำให้มีช่องว่างในดินพอสมควร น้ำซึมผ่านได้ช้า ๆ ไม่ทำให้น้ำขังเหมาะสำหรับปลูกพืชโดยทั่วไป
          3. ดินทรายเป็นดินที่ประกอบด้วยเม็ดดินขนาดใหญ่จำนวนมาก มีช่องว่างในดินมากถ่ายเทอากาศดีแต่ อุ้มน้ำน้อยหรือไม่อุ้มน้ำเลย เป็นดินที่มีความสมบูรณ์ต่ำไม่เหมาะกับการปลูกพืช
ดินที่เหมาะสมกับการปลูกพืช
1. ฮิวมัส คือ ซากพืชซากสัตว์ที่ตายและเน่าเปื่อยแล้ว อาจได้จากใบหญ้า ใบไม้ซึ่งกองทับถมกันอยู่ นาน ๆ จนเน่าเปื่อย มูลสัตว์เช่น มูลวัว ควาย เป็ด ไก่ และหมูเมื่อใส่ไปในดินก็ทำให้ดินดีขึ้น เพราะมูลสัตว์ เมื่อปนอยู่ในดินก็เน่าเปื่อยกลายเป็นฮิวมัส ดินอุดมมักมีสีดำ เมื่อแห้งไม่แข็งเหมือนดินเหนียว น้ำซึมผ่านได้ พอสมควร เป็นดินที่พืชส่วนมากชอบ
2. ดินอุดม เป็นดินที่อุ้มน้ำไว้ได้ดีพอสมควร พอเหมาะที่จะทำให้ต้นไม้เจริญงอกงามดี
3. ดินร่วน เป็นดินที่มีลักษณะซุย มีสีต่างกัน ๆ กัน บางชนิดมีสีค่อนข้างดำ มีน้ำหนักเบา เนื่องจากมี อินทรียวัตถุผสมอยู่มาก มีอาหารบริบูรณ์การอุ้มน้ำของดินพอเหมาะแก่พืช อุ้มความร้อนไว้พอเพียง อากาศ ถ่ายเทได้สะดวก การระบายน้ำดีเวลาฝนตกก็ไม่ชื้น
4. ดินเหนียว เป็นดินที่มีลักษณะเป็นเม็ดละเอียดมาก เวลาแห้งจะจับกันเป็นก้อนแข็งแตกระแหง เวลาถูกน้ำจะเป็นโคลนตม ทำให้สมบัติของดินเปลี่ยนไป เวลาฝนตกน้ำจะซึมลงช้าเพราะเม็ดดินละเอียด สามารถอุ้มน้ำได้ดีกว่าชนิดอื่น ๆ อากาศถ่ายเทหรือผ่านเข้าออกระหว่างเม็ดดินไม่ได้ดีมีอาหารพืชบ้างเล็กน้อย แล้วแต่ชนิดของดิน ดินเหนียวมีหลายชนิด มีสีต่าง ๆ กัน

5. ดินทราย เป็นดินที่มีทรายอยู่เป็นส่วนใหญ่ดินชนิดนี้มีเนื้อหยาบร่วน ไม่จับกันเป็นก้อน น้ำซึมผ่าน ไปได้ง่าย อุ้มน้ำไว้ได้น้อย ดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูก คือ ดินที่มีเหนียวและดินทรายพอ ๆ กัน เรียกว่า ดินปนทราย ดินปน ทรายมีฮิวมัสปนอยู่มาก เป็นดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น